ทำความรู้จักกับ “ซาอุดิอาระเบีย”
จากฐานราก สู่ ความเป็นราชอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ (ฉบับย่อ) 

ซาอุดิอาระเบียเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวโลกว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่งคั่งร่ำรวยทางเศรษฐกิจ อันเป็นผลมาจากการค้าน้ำมันกับชาวโลก ในฐานะของผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันอันดับหนึ่งของโลก ประเทศที่มีขนาดใหญ่กว่า 2.1 ล้านตารางกิโลเมตรแห่งนี้ มีประชากรอยู่ราว 35 ล้านคน มีระบบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ โดยมีองค์พระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีการใช้กฎหมายอิสลามที่เข้มงวด ในการปกครองพลเมืองของตน

แต่กระนั้น กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างซาอุดิอาระเบีย ได้ผ่านหน้าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน เปลี่ยนผ่านผู้นำผู้ปกครองมามากมายหลายยุคหลายสมัย 

จากหลักฐานทางโบราณคดี ดินแดนอันเก่าแก่แถบนี้ ได้พบว่ามีมนุษย์อยู่อาศัยมานานนับแสนปี ตั้งแต่ยุคหินเก่า (Paleolithic) มาแล้ว จวบจนกระทั่งสมัยยุคก่อนอิสลาม ที่มีอารยธรรมต่างๆเกิดขึ้นมากมาย ในต่างกาลเวลา ในแถบคาบสมุทรอาระเบียแห่งนี้ โดยที่โดดเด่น เห็นจะเป็นอาณาจักรมีเดียนไนต์ (Mediantes Kingdom) อาณาจักรเดดัน (Dedan Kingdom) อาณาจักรนาเบเทียน (Nabetaeans Kingdom) หรือแม้แต่อาณาจักรโรมัน (Roman Empire) เองก็ตาม

ในช่วงยุคกลาง หลังจากที่ศาสนาอิสลามได้ถูกฝังรากลึกบนแผ่นดินเหนือคาบสมุทรอาระเบียแห่งนี้ การปกครองได้เปลี่ยนผ่านอยู่ในรูปแบบของอาณาจักรอิสลาม (Caliphates) ที่แบ่งเป็นพื้นที่ดินแดนส่วนต่างๆ ตามแต่ละชนเผ่า โดยมีผู้นำที่เรียกว่า “กาลิบห์” (Caliph) ปกครองกันเอง

แต่ทว่าในช่วงศตวรรษที่ 10 ถึง 20 สองเมืองหลัก นั่นคือ เมกกะห์ และเมดิน่าห์ จะถูกปกครองโดยผู้ปกครองท้องถิ่นที่เรียกว่า Sharif of Mecca 

ช่วงศตวรรษที่ 16 ดินแดนแถบนี้ก็ได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมันอันยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Ottoman Hejaz เมื่อวันเวลาผ่านไปถึงกลางช่วงศตวรรษที่ 18 ราชวงศ์ซาอูด (The Saud Dynasty) ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยกษัตริย์ที่เป็นผู้ก่อตั้งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบียแห่งแรก (The First Saudi State) คือ King Muhammad bin Saud Al Mugrin และมีกษัตริย์พระองค์อื่นๆสืบทอดบัลลังก์ต่อกัน ในขณะเดียวกัน ยังมีอีกราชวงศ์ นั่นคือ อัล ราชิด (Al Rashid) ที่ผลัดกันสลับขึ้นครองความยิ่งใหญ่เหนือบริเวณเดียวกัน ในขณะที่อาณาจักรออตโตมันได้ล่มสลายลง หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง

และจนกระทั่งในปี  ค.ศ. 1932 ได้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญต่อหน้าประวัติศาสตร์ในปัจจุบันอีกครั้ง นั่นคือ กษัตริย์อับดุล อะซิส บิน ซาอูด (King Abdul Aziz Ibn Saud) ทรงได้รวบรวมแผ่นดินซาอุดิอาระเบียให้เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ชื่อ “อาณาจักรซาอุดิอาระเบีย” (Kingdom of Saudi Arabia) ในวันที่ 23 กันยายน 1932 จึงนับให้วันนี้ เป็นวันชาติของซาอุฯ ตั้งแต่นั้นมา

หลังการรวมชาติ เศรษฐกิจฐานรากยังขึ้นอยู่กับผลผลิตทางเกษตรกรรม และรายได้จากการจาริกแสวงบุญ จนกระทั่งเกิดการค้นพบ “ทองคำสีดำ” หรือ น้ำมันดิบในพื้นที่ Al-Ahsa บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวเปอร์เซีย จนได้มีการทำการขุดสำรวจอย่างจริงจังในเวลาต่อมา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบีย โดยดำเนินการภายใต้ชื่อบริษัท Aramco 

จากนั้นได้มีกษัตริย์ในราชวงศ์ซาอูด อีกหลายพระองค์สืบทอดสันติวงศ์ต่อกันมา โดยแต่ละพระองค์เป็นพระโอรสในลำดับต่างๆของกษัตริย์อับดุล อะซีส ทั้งสิ้น รวมทั้งกษัตริย์องค์ปัจจุบัน King Salman bin Abdulaziz Al Saud ก็เป็นพระโอรสในลำดับที่ 25 เช่นกัน พระองค์ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 2015 และทรงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศอีกด้วย 

อ่านมาถึงตรงนี้ เราทุกคนคงได้เห็นว่า 
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกย่างก้าวของช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ของประเทศนี้ ล้วนมีความสำคัญต่อการหล่อหลอมความเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ ของประเทศ “ซาอุดิอาระเบีย”ในปัจจุบัน

Let’s go to Saudi Arabia !

Top